เรื่องย่อ


นักดาบดำ และ ตราประทับ
เนื้อเรื่องเปิดตัว กัทส์ (Guts) นักดาบดำที่มีดาบขนาดมหึมา ตาขวาบอด มีแขนซ้ายเทียมทำด้วยเหล็ก และมีรอยรอยตีตราประทับอยู่ที่ต้นคอ ได้ออกเดินทางตามหา "ก็อดแฮนด์" ทั้ง 5 ซึ่งเป็นเจ้าแห่งสาวกปีศาจทั้งปวง โดยกัทส์ได้เดินทางมาถึงเมืองๆหนึ่ง ที่ถูกครอบงำโดย "ปราสาทโคกะ (Koka Castle)" โดยเจ้าเมืองจะต้องส่งเครื่องบรรณาการทั้งทอง อาหาร รวมทั้งผู้หญิงและเด็กไปเป็นเครื่องสังเวยในปราสาทโคกะ เพื่อแลกกับการที่เมืองจะรอดพ้นจากการถูกทำลายที่เมืองแห่งนี้กัทส์ได้ช่วยเอลฟ์ที่ชื่อ พัค (Puck) ให้รอดพ้นจากอันตราย พัคจึงได้ติดตามและออกเดินทางร่วมกับกัทส์ไปนับแต่นั้นเป็นต้นมากัทส์ ได้ต่อสู้กับเจ้าแห่งปราสาทโคกะ ซึ่งแท้จริงก็เป็นหนึ่งในสาวกของปีศาจ โดยกัทส์สามารถเอาชนะเจ้าแห่งปราสาทโคกะที่อยู่ในร่างของปีศาจงูได้ และออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
ต่อมาเนื้อเรื่องได้กล่าวถึงรอยประทับที่ต้นคอของกัทส์ โดยรอยประทับตีตราดังกล่าวเป็นรอยประทับของผู้ที่เป็น "เหยื่อสังเวย" ผู้ที่ถูกตีตราต้องกลายเป็นอาหารของปีศาจ และจะถูกตามล่าโดยสาวกปีศาจทั้งหลาย กัทส์ที่มีรอยประทับตีตราอยู่ที่ต้นคอจึงถูกสาวกปีศาจตามล่าอยู่ตลอดเวลา แต่ก็สามารถต่อสู้เอาชีวิตรอดมาได้
เทวดาผู้พิทักษ์แห่งความโลภ
กัทส์ ได้เดินทางมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง ที่ถูกปกครองด้วยความหวาดกลัวจากเคานต์ ที่มุ่งกำจัดพวกนอกรีต และประหารชีวิตคนไปอย่างมากมาย กัทส์ถูกตามล่าโดยทหารของเคานต์ และได้รับการช่วยเหลือจาก "วาร์กัส (Vargas)" ชายพิการซึ่งเป็นอดีตหมอหลวงประจำปราสาท
ยุคทองคำ
แม่ของกัซถูกจับแขวนคอตายทั้งกลมขณะตั้งท้องกัทส์ แต่กัทส์ก็สามารถคลอดออกมาจากศพแม่ที่ถูกแขวนคอตายไปแล้วและยังสามารถเอาชีวิตรอดได้กัทส์ ถูกเก็บมาเลี้ยงโดย ชีส หญิงเสียสติในกลุ่มของทหารรับจ้างที่บังเอิญผ่านทางมา ชีส ซึ่งเสียสติจากการแท้งลูก เมื่อพบกัทส์ที่รอดชีวิตโดยการคลอดออกมาจากศพแม่ จึงคิดเสมือนว่ากัทส์เป็นลูกของตนเอง ต่อมาชีสตายด้วยกาฬโรค แกมบิโนสามีของชีสจึงเลี้ยงดูกัทส์อย่างเข้มงวด รวมถึงฝึกวิชาดาบให้ เพื่อให้กัทส์ออกรบหาเงินตั้งแต่ยังเด็ก ถึงแม้กัทส์จะถูกเลี้ยงอย่างเข้มงวดและถูกดุด่าอยู่เสมอ แต่กัทส์กลับคิดว่า แกมบิโน เปรียบเสมือนพ่อแท้ๆของตนเองกัทส์ในวัยเด็กเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก โดโนแวน ซึ่งเป็นคนในกลุ่มทหารรับจ้างด้วยกัน โดยโดโนแวน บอกแก่กัทส์ว่า แกมบิโน เป็นคนขายกัทส์เพื่อแลกกับเงิน แต่ตัวกัทส์เองกลับไม่เชื่อ วันหนึ่งแกมบิโนเสียขาจากสนามรบ และกลายเป็นคนติดเหล้า ทุกคนในกองทหารก็คิดกันอยู่แล้วว่ากัทส์เป็นตัวกาลกีณีเพราะเก็บมาจากศพ พอมาแกมบิโนมาเสียขาอีก ทุกคนก็เริ่มไม่พอใจ แกมบิโนเองก็เกลียดกัทส์มาตั้งแต่แรกที่ฝึกให้เพราะต้องการให้หาเงินคืนนึ่งแกมบิโนที่กำลังเมามายได้บุกเข้าไปในห้องนอนหมายจะฆ่ากัทส์ แต่กัทส์ป้องกันตัวทันแต่พอรู้ตัวดาบก็ทะลุคอหอยของแกมบิโนไปแล้ว คนที่เข้ามาเห็นก็เข้าใจผิดคิดว่ากัทส์ลงมือฆ่าแกมบิโน กัทส์จึงหลบหนีจนตกเหวไป ข้างล่างมีฝูงหมาป่ากัทส์ดิ้นรนจนรอดมาได้ แต่ก็สลบไปโชคดีมีคนผ่านมาจึงช่วยกัทส์ไว้4 ปีต่อมา กัซยังคงเป็นทหารรับจ้าง แต่ว่าอยู่คนเดียวไม่มีกลุ่มพวก เค้าได้สร้างผลงานโดยการล้มคนที่เก่งที่สุดของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ กริฟฟิท (Griffith) ผู้นำกองพันเหยี่ยวสนใจตัวเขามากจึงช่วยให้มาร่วมด้วย กรีพีสเป็นผู้นำที่เก่งมาก ๆ ฝีมือดาบก็เหนือกว่ากัซทำให้กัซต้องยอมแพ้แล้วเป็นพวกด้วยในที่สุด กองพันเหยี่ยวเป็นกองทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงมาก ทุกคนล้วนมีฝีมือ มีแคสก้าเป็นรองแม่ทัพ และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกองพัน กองพันเหยี่ยวสร้างผลงานไว้มากมายจนเป็นที่พอพระทัยของกษัตริย์ ระหว่างการรบครั้งหนึ่งมีคนในตำนานที่ว่าไปที่สนามรบไหนที่นั่นจะมีแต่คนตายเกลื่อน และตำนานก็มีมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว คนก็ยังมีชีวิตอยู่ คือ นอส เฟอราตู ซ็อตต์ ขณะที่กัซกับกรีฟีสกำลังเสียท่า ซ็อตต์เห็นไข่จักรพรรดิที่ห้อยอยู่ที่คอของกรีฟีสก็ตกใจแล้วก็ล่าถอยไป พร้อมทิ้งคำพูดไว้กับกัซว่า เมื่อใดที่ชายผู้นี้พบกับความสิ้นหวัง และหากเจ้ายังเป็นเพื่อนรักของชายคนนี้ล่ะก็ เจ้าจะพบจุดจบที่ไม่อาจเลี่ยงได้การศึกครั้งสุดท้าย ที่ต้องรบกับศัตรูที่แข็งแกร่งยากจะรับมือกองทัพอัศวินแรดม่วงแห่งจูด้า แต่กองพันเหยี่ยวขอรับหน้าที่นี้ และสามารถชนะได้ ได้รับความดีความชอบใหญ่หลวง จนถึงบัดนี้กัซที่รับหน้าที่เป็นกองหน้าในสนามรบตลอดฝีมือได้พัฒนาขึ้นมาก และอยากจะมายืนเคียงข้างกรีฟีสด้วยตนเอง จึงขอแยกตัวไป แต่การที่กัซจากไปนั้นทำให้กรีฟีสทำสิ่งที่ผิดมหันต์ โดยที่ไปมีสัมพันธ์กับเจ้าหญิงชาร์ลอต เพื่อหวังเป็นใหญ่ให้เร็วที่สุด แต่ถูกพระราชาจับได้และถูกนำตัวไปทรมาน กองพันเหยี่ยวจึงถูกไล่ล่า จึงต้องหนีไปทั้งที่ขาดผู้นำมีเพียงแคสก้าเท่านั้นที่คอยนำทัพ กัซได้ข่าวจึงกลับมาช่วย รวมยอดฝีมือของกองทัพบุกเข้าไปช่วยกรีฟีสออกมา ถึงจะช่วยสำเร็จ แต่กรีฟีสที่ถูกทรมานอย่างหนัก ,ตัดเอ็นมือ ,ตัดเอ็นเท้า ,ถูกถลกหนัง และถูกตัดลิ้น ทำให้ไม่สามารถนำทัพหรือต่อสู้ได้อีก พระราชาส่งกลุ่มทหารโฉดมาไล่ล่ากองพันเหยี่ยว แต่หัวหน้าพวกมันนั้นแท้จริงแล้วเป็นปีศาจเหมือนซ็อตต กัซต้านไว้ได้ในที่สุด แต่กรีฟีสสิ้นหวังถึงที่สุดหมายจะฆ่าตัวตาย แต่พอดีเจอกับเบเฮริทไข่จักรพรรดิ ที่น่าจะตกหายไปแล้วตอนถูกทรมาน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่จะเรียกเทวทูต และที่พิเศษกว่านั้นคือมันเป็นเบเฮริทสีแดง กรีฟีสคือคนที่จะไปเป็นเทวทูตคนที่ 5 กรีฟีสได้บูชายันกองพันเหยี่ยวทั้งหมด ทุกคนในกองพันเหยี่ยวถูกตีตราเครื่องสังเวยและเป็นเหยื่อแก่ปีศาจทั้งหลาย กรีฟิสได้ข่มขืนแคสก้าต่อหน้ากัซ ส่วนกัซถูกทำให้ตาบอดข้างหนึ่ง และได้ตัดแขนซ้ายของตัวเองออก ก็อดแฮนด์จึงครบ 5 คน อัศวินกะโหลกผู้เป็นปฏิปักษ์กับปีศาจได้บุกเข้ามาช่วยกัซกับแคสก้า ซึ่งกัซยังต่อสู้อยู่ แม้ว่าจะเหลือตัวคนเดียวหลังจากหนีมาได้ แคสก้าก็เสียสติ และต่อจากนี้กัซต้องใช้ชีวิตอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย รอยตีตราจะเรียกปีศาจมา นั่นหมายถึงกัซจะไม่ได้หลับยามค่ำคืนอีกต่อไป ทั้งสองพักอยู่ที่บ้านเกโด ช่างตีดาบฝีมือดี เดิมเกโดเป็นช่างในวังแต่ได้ตีดาบฆ่ามังกรขึ้นมาเป็นดาบที่ใหญ่มากๆ ดาบที่กัซเคยใช้ในสนามรบ ใหญ่และยาวกว่าดาบปกติ 3 เท่าแต่ดาบนี้ไม่น่าจะเรียกดาบมันใหญ่และยาวกว่าตัวกัซเสียอีก เป็นเหตุให้เกโดโดนไล่ออกจากวังเพราะไม่มีใครใช้ดาบนี้ได้ แต่กัซใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วจึงออกเดินทางเพื่อปราบปีศาจและตามหาก็อตแฮน กับดาบเล่มนี้พร้อมด้วยแขนซ้ายที่เป็นแขนกลภายในติดปืนใหญ่ไว้ และต่อสู้เรื่อยมาจนได้พบกับแม่มดน้อยฝึกหัด และได้รับเกราะดำจากแม่มดฟลอร่า เกราะนี้อัศวินกะโหลกเคยใช้มาก่อน มันจะทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเจ็บปวดและลุยอย่างเดียว กัซได้พรรคพวกเพิ่ม และออกเดินทางไปบ้านเกิดของแพ็คที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น